10 เทคนิคจัดสวนด้วยตัวเองอย่างมืออาชีพ

          สำหรับคนที่เริ่มปลูกต้นไม้ใหม่ ๆ ก็คงจะมีปัญหาจุกจิกเกี่ยวกับการจัดแต่งสวนอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน และกว่าต้นไม้จะเติบโตจนกลายเป็นสวนที่สวยสดชื่น ก็ต้องลองผิดลองถูกกันอยู่หลายวิธี เพื่อให้ต้นไม้ทุกต้นเติบโตมาอย่างดี รวมทั้งบริเวณรอบ ๆ สวนก็จะได้ทัศนียภาพที่สวยงามน่ามองไปด้วย แต่ด้วยความเป็นมือใหม่หัดปลูกต้นไม้ ก็อาจจะมีบางอย่างที่ยังไม่คล่อง และมีบางสิ่งที่ติดขัดเป็นอุปสรรคกันบ้าง ฉะนั้นเพื่อความราบรื่นของการทำสวนของคุณ ลองมาดูเทคนิคการจัดแต่งสวนอย่างมืออาชีพกันดีกว่า ต้นไม้ทุกต้นในบ้านของคุณจะได้สวยสดชื่น บริเวณรอบ ๆ สวนก็จะได้ดูสะอาดตาน่ามองไปด้วยนะคะ

 1. จดรายละเอียดของต้นไม้ทุกต้น

          ต้นไม้แต่ละต้นก็มีความต้องการที่แตกต่างกันออกไป บ้างก็ชอบแดด บางต้นก็ชอบน้ำ บ้างก็ทนแดดไม่ได้ เป็นต้น และเพื่อเตือนความจำของเรา ก็ควรหาสมุดสักเล่มมาจดรายละเอียดของต้นไม้แต่ละต้นแยกไว้ ทั้งชื่อของต้นไม้ ตำแหน่งที่คุณปลูก พันธุ์ของต้นไม้ รวมไปถึงเคล็ดลับการดูแล หรือจะเขียนรายละเอียดทั้งหมดลงไปบนป้ายปักต้นไม้ก็ได้ เวลาจะรดน้ำต้นไม้จะได้เห็นรายละเอียดเหล่านี้ได้อย่างสะดวก และชัดเจนมากขึ้น ต้นไม้ทุกต้นก็จะได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง

 2. เคลือบน้ำมันลงบนพลั่วป้องกันคราบดิน

          เวลาที่ใช้พลั่วตักดิน มักจะเกิดปัญหาเศษดินติดค้างอยู่กับพลั่ว จนทำให้รู้สึกว่าพลั่วมีน้ำหนักมากขึ้น ส่งผลให้ตักดินได้ไม่ค่อยคล่องตัวเท่าไรนัก ซึ่งวิธีแก้ปัญหาเหล่านี้ก็ไม่ยาก แค่หาสเปรย์น้ำมันหล่อลื่น หรือซิลิโคนมาฉีดให้ทั่วหน้าพลั่วตักดิน ครั้งต่อไปที่คุณใช้งานพลั่ว ก็จะหมดปัญหาเศษดินติดค้างอยู่กับพลั่วแล้วล่ะ

 3. ลดน้ำหนักกระถางต้นไม้

          กระถางต้นไม้ส่วนใหญ่จะทำมาจากดินปั้น ทำให้มีน้ำหนักพอตัว และเมื่อเราใส่ดินและปุ๋ยลงไปในกระถางต้นไม้อีก ก็เท่ากับเพิ่มน้ำหนักให้กระถางต้นไม้หนักขึ้นอีกเท่า ทำให้เราเคลื่อนย้ายกระถางต้นไม้ลำบาก ฉะนั้นเราก็มาลดน้ำหนักให้กระถางต้นไม้กันดีกว่า โดยแบ่งกระถางต้นไม้ออกเป็น 2 ส่วน ส่วนล่างสุดให้ใส่เปลือกถั่วลงไปก่อน อีกส่วนที่เหลือก็ใส่ดินปลูกต้นไม้ที่ผสมกับปุ๋ยหมักแล้วเรียบร้อย เคล็ดลับนี้นอกจากจะช่วยลดน้ำหนักกระถางต้นไม้ได้แล้ว ยังมีผลพลอยได้เป็นพื้นที่สะอาด ๆ ไม่มีเศษดินเกลื่อนอยู่ตามพื้นรอบ ๆ กระถางต้นไม้อีกด้วยค่ะ

 4. ล็อกตำแหน่งกระถางต้นไม้ด้วยบันไดช่าง

          ในตอนที่กำลังจะขนย้ายต้นไม้ที่เพิ่งซื้อจากร้านต้นไม้มาเพื่อจะเอากลับบ้าน แนะนำให้ปูผืนผ้าใบกันน้ำไว้ที่กระบะท้ายรถ จากนั้นก็วางบันไดช่างราบไปกับพื้นกระบะ แล้วค่อย ๆ วางต้นไม้ลงตามช่องว่างระหว่างขั้นบันได วิธีนี้จะช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลว่ากระถางต้นไม้จะโคลงเคลง หรือล้มกลิ้งจนเศษดินหกกระจายเปื้อนรถแน่นอน

 5. อ่านระดับน้ำฝนง่าย ๆ ด้วยสีผสมอาหาร

          ที่วัดระดับน้ำฝนมีลักษณะใส คล้าย ๆ หลอดทดลอง จนบางทีก็ทำให้อ่านระดับน้ำฝนไม่ค่อยถนัด ฉะนั้นก็น่าจะหยดสีผสมอาหารลงไปในหลอดทดลองสัก 2-3 หยด เพื่อทำให้น้ำฝนในหลอดทดลองมีสีสัน เวลาอ่านระดับน้ำฝนก็จะง่ายดายขึ้น ไม่ต้องเพ่งจนปวดตาอีกต่อไป

 6. ถังพลาสติกจัดระเบียบรากต้นไม้

          ถ้าไม่ต้องการให้รากของต้นไม้ที่ปลูกแผ่ขยายจนเต็มพื้นที่ใต้ดิน จนไปแย่งน้ำและสารอาหารของกันและกัน ควรจะปลูกต้นไม้ในถังพลาสติกที่เจาะรู แล้วฝังถังพลาสติกนั้นไว้กับต้นไม้ไปเลย เพื่อให้ถังพลาสติกช่วยจำกัดพื้นที่ขยายตัวของรากต้นไม้ บังคับให้ทิศทางการเจริญเติบโตของรากเป็นไปในแนวดิ่งลงดิน พื้นที่ใครพื้นที่มัน ไม่ต้องแย่งน้ำและอาหารกันอีก

 7. แซะรากที่ติดกันแน่นด้วยมีด

          ข้อเสียของการซื้อพืชกระถาง ก็คือ รากของต้นไม้จะเกาะติดกันเป็นวงกลม พันกันยุ่งจนเป็นอุปสรรคให้ต้นไม้ดูดน้ำและสารอาหารได้ยาก ก่อนจะย้ายต้นไม้จากกระถางลงไปปลูกในดิน ก็เลยต้องใช้นิ้วมือสางรากที่พันกันยุ่งให้คลายตัวออกมาก่อน แต่ถ้ารากติดกันแน่นจนใช้มือสางก็ไม่หลุด อย่างนี้คงต้องใช้มีดบางค่อย ๆ กรีดแซะรากที่พันกันอยู่เบา ๆ เพื่อให้รากต้นไม้คลายตัวแล้วล่ะ

8. เจาะรูพืชคลุมดินเปิดช่องให้พืชชนิดหัว

          พืชคลุมดินมักจะเป็นปัญหากับพืชชนิดหัว เพราะพืชคลุมดินจะทับปิดช่องจนพืชชนิดหัวแตกเหง้าออกมาไม่ได้ ดังนั้นหลังจากปลูกพืชคลุมดินแล้ว ให้คุณกางตาข่ายลงบนพืชคลุมดิน แล้วเจาะรูตามรูตาขายให้ทั่ว เพื่อเปิดช่องให้พืชชนิดหัวแตกหน่อออกมาได้

9. เสริมออพชั่นให้รถเข็นขนดิน

          เราสามารถเปลี่ยนรถเข็นขนดินธรรมดาให้เป็นรถอเนกประสงค์ได้ง่าย ๆ ด้วยการหาแผ่นไม้มาติดตั้งบนรถเข็นขนดิน หาแผ่นไม้ที่มีขนาดเท่าครึ่งหนึ่งของขนาดรถเข็นก็ได้ แล้วนำมาเชื่อมต่อกับรถเข็นให้แน่นหนา เท่านี้ก็จะมีพื้นที่วางเครื่องมือทำสวนแบบเคลื่อนที่แล้ว ทำสวนได้สะดวกขึ้นอีกเยอะเลย

 10. ตัดแต่งกิ่งกุหลาบบ่อย ๆ

          ต้นกุหลาบเป็นพืชที่ต้องใส่ใจมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการตัดแต่งกิ่งต้นกุหลาบ เพราะต้นกลุาบเป็นพืชที่มีทั้งใบและหนามมาก และทั้ง 2 อย่างนี้ก็มักจะบดบังแสงแดด ให้ส่องไปยังต้นกุหลาบได้ไม่ทั่วถึง ทำให้เกิดปัญหาเชื้อราบนดอกกุหลาบและใบ ฉะนั้นเราจึงต้องตัดเล็มกิ่งใบของต้นกุหลาบอยู่เสมอ ให้ต้นกุหลาบคายน้ำออกมาได้มากขึ้น ไม่มีความชื้นตกค้างจนทำให้เกิดเชื้อราได้ค่ะ


          เทคนิคจัดแต่งสวนให้สวยนี้ น่าจะเป็นประโยชน์กับมือใหม่หัดปลูกต้นไม้ไม่มากก็น้อย ฉะนั้นหากคุณกำลังมีปัญหาติดขัดในการทำสวนอยู่ ก็อย่าลืมนำเทคนิคของเราไปใช้กันนะคะ