hehe
วิธีเพิ่มความเขียวขจีภายในบ้าน สำหรับคนที่มีพื้นที่น้อย

วิธีเพิ่มความเขียวขจีภายในบ้าน สำหรับคนที่มีพื้นที่น้อย

คุณไม่มีพื้นที่ด้านนอกตัวบ้านสำหรับปลูกต้นไม้หรือคะ? เราจะแสดงให้คุณเห็นว่าคุณสามารถเพิ่มความเขียวขจีให้กับบ้านพักของคุณที่อยู่ใจกลางเมืองได้ด้วยสวนสวยภายในบ้าน

วิธีเพิ่มความเขียวขจีภายในบ้าน สำหรับคนที่มีพื้นที่น้อย

วิธีเพิ่มความเขียวขจีภายในบ้าน สำหรับคนที่มีพื้นที่น้อย

นอกจากจะช่วยเพิ่มความหลากหลายขององค์ประกอบและสีสันให้กับการตกแต่งบ้านของคุณแล้ว การปลูกไม้ประดับภายในบ้านยังมีประโยชน์อีกมากในการช่วยกรองอากาศและหมุนเวียนอากาศภายในบ้าน ไม้ประดับเหล่านี้จะช่วยดูดซับและกรองสารพิษ มลภาวะ และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เราสูดลมหายใจเข้าไปนั้น ให้เปลี่ยนเป็นก๊าซออกซิเจนที่จำเป็นต่อร่างกาย และเราไม่ได้พูดถึงแค่ไม้ใบเท่านั้น แต่ยังรวมถึงไม้ดอกอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นเบญจมาศ เยอบีร่า แอฟริกันไวโอเลต ไซคลาเมน และกุหลาบหิน ที่ทั้งสวยและใช้งานได้ดี

สำหรับกล้วยไม้ก็มีประโยชน์เช่นกันเพราะเป็นไม้ชนิดหนึ่งที่ปล่อยก๊าซออกซิเจนในช่วงเวลาค่ำคืน ดังนั้นเราจึงขอเชิญชวนให้คุณใส่ใจกับตัวคุณเองและบ้านของคุณ โดยการเริ่มปลูกไม้สีเขียวๆ ไว้ภายในบ้าน ในการดูแลไม้ประดับให้ดูสวยงามอยู่ตลอดเวลานั้น คุณจะต้องดูแลให้มากกว่าการรดน้ำตามปกติและดูแลรักษาใบของต้นไม้เป็นครั้งคราวเท่านั้น

วิธีการดูแลรักษาไม้ประดับภายในบ้านให้มีสีสวยงามและแข็งแรง 
แสงแดด ปริมาณแสงแดดที่ต้นไม้ได้รับมีความสำคัญมากต่อการอยู่รอด ควรศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับต้นไม้แต่ละชนิดก่อนตัดสินใจว่าควรจะนำไปปลูกไว้ส่วนใดของบ้าน เนื่องจากภายในบ้านจะมีปริมาณแสงที่ค่อนข้างน้อย เพราะฉะนั้นตัวเลือกของคุณจึงค่อนข้างจะจำกัดอยู่ที่ต้นไม้ประเภทที่ชอบแสงน้อยหรือชอบอยู่ในที่ร่มมากกว่า นอกเสียจากว่าบ้านของคุณจะมีหน้าต่างบานใหญ่ที่อยู่ทางทิศเหนือ เพราะมีต้นไม้อยู่หลายชนิดที่สามารถปลูกใกล้กับหน้าต่างเพื่อรับแสงแดดจัดๆ ได้

การรดน้ำ
การรดน้ำมากเกินไปเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะต้นไม้ส่วนใหญ่ไม่ชอบให้มีน้ำขัง เพราะจะทำให้รากเน่าและขาดก๊าซออกซิเจนไปหล่อเลี้ยง ส่งผลให้การเจริญเติบโตช้าลงและอาจตายได้ในที่สุด วิธีที่ดีที่สุดคือการปล่อยให้ดินแห้งก่อนที่จะรดน้ำในครั้งต่อไป ยกเว้นเฟิร์นและไม้บางประเภทที่ชอบความชุ่มชื้นตลอดเวลา คุณสามารถทดสอบดินได้โดยการลองยกกระถางดูว่าหนักหรือไม่ หรือเอานิ้วจิ้มเพื่อดูว่ามีความชื้นมากน้อยเพียงใด เมื่อดินหรือบริเวณหน้าดินที่ลึกสักสองสามนิ้วเริ่มแตกแห้ง คุณควรรดน้ำให้ทั่วถึงโดยดูว่าดินเปียกชุ่มแล้วและน้ำส่วนที่เกินนั้นไหลออกไป

c218c0f63a1c079c6eb58840bbc6381e

การใส่ปุ๋ย 
คุณควรเติมปุ๋ยชีวภาพชนิดน้ำอย่างดีให้กับไม้ประดับภายในบ้านประมาณเดือนละครั้ง หรือในการรดน้ำทุกๆ สี่ครั้ง

ศัตรูพืชและโรคพืช
ไม้ประดับภายในบ้านมีแนวโน้มที่จะถูกรบกวนโดยศัตรูพืชและโรคพืชมากกว่า เนื่องจากมีความอบอุ่นและขาดการระบายอากาศ คุณควรเฝ้าสังเกตลักษณะของใบที่ดูแปลกตาหรือสีที่เปลี่ยนไป หรือตัวหนอนบนต้นไม้ที่สามารถมองเห็นได้ สำหรับการแก้ไขปัญหานั้น สิ่งที่ดีที่สุดคือการถ่ายรูปเอาไว้แล้วนำไปให้ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤกษศาสตร์ดูเพื่อหาสาเหตุของปัญหาและเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับการรักษาให้เหมาะสม

คำแนะนำ : การใช้น้ำอุ่นผสมกับน้ำยาล้างจานแล้วนำมาเช็ดถูที่ใบจะสามารถช่วยลดศัตรูพืชหรือเชื้อราได้ แต่ต้องพยายามไม่ให้ส่วนผสมดังกล่าวกระเด็นลงไปที่ดิน

คุณทราบหรือไม่? 
องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (นาซ่า) ได้ทำการศึกษามาเป็นระยะเวลาสองปี พบว่าไม้ประดับภายในบ้านบางชนิดมีคุณสมบัติในการกรองสารพิษได้ดีกว่าพืชชนิดอื่นๆ ยกตัวอย่างเช่น ต้นฟิโลเดนดรอน เศรษฐีเรือนใน และราชินีสีทอง ที่สามารถขจัดสารจำพวกฟอร์มาลดีไฮด์ได้ (เป็นสารที่เกิดจากพรม ไม้อัด เฟอร์นิเจอร์พร้อมประกอบ และฉนวนความร้อนอื่นๆ) ในขณะที่พบว่าเยอบีร่าเดซี่ และเบญจมาศมีคุณสมบัติในการขจัดสารจำพวกเบนซิน (เป็นสารที่เกิดจากแผ่นไม้อัดกาว และสีบางประเภท) ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นสารก่อมะเร็ง อย่างไรก็ดี คุณควรระลึกว่าต้นไม้จะไม่ได้ช่วยขจัดควันหรือผงฝุ่นจากยาสูบมากนัก

ข้อควรจำ : โดยทั่วไปแล้ว ไม้ประดับภายในบ้านจะเจริญเติบโตได้ช้ากว่าไม้ที่อยู่ท่ามกลางแสงแดด เนื่องจากปริมาณแสงแดดที่ได้รับนั้นมีปริมาณที่น้อยกว่า

ข้อมูลดีๆ จาก everydaymethailand.com/

tumblr_n4qbztdW3K1txj0kao1_500